ตารางบันทึกผลการทดลอง
ตารางที่ 1 ***การเปลี่ยนแปลงของน้ำยางเมื่อนำมาทดลองกับน้ำที่คั่นจากใบเงาะ***
ว/ด/ป ที่ทำการทดลอง
|
เวลาที่ใช้ในการสังเกตการเปลี่ยนแปลง
|
การเปลี่ยนแปลงของน้ำยาง
|
-
|
เมื่อเติมน้ำที่คั่นจากใบเงาะลงไปในน้ำยางที่เตรียมไว้และคนให้ทั่ว น้ำยางจะมีสีเขียวและน้ำยางยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
| |
5 นาที
|
-น้ำยางมีความข้นเล็กน้อย
-น้ำยางเป็นสีเขียว
-ไม่มีกลิ่นฉุน
| |
10 นาที
|
-น้ำยางมีความข้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
-น้ำยางเป็นสีเขียว
-ไม่มีกลิ่นฉุนจากใบเงาะ
| |
4 ธันวาคม 2554
|
15 นาที
|
-น้ำยางเริ่มแข็งตัวแต่มีส่วนที่เป็นน้ำมากกว่าส่วนที่เป็นก้อน
-น้ำยางเป็นสีเขียวอ่อน
-ไม่มีกลิ่นฉุนจากใบเงาะ
|
20 นาที
|
-น้ำยางเริ่มแข็งตัวเป็นก้อนมากกว่าส่วนที่เป็นน้ำ
-น้ำยางเป็นสีขาวปะปนกับสีเขียวเล็กน้อย
-ไม่มีกลิ่นฉุนจากใบเงาะ
| |
25 นาที
|
-น้ำยางแข็งตัวเป็นก้อนทั้งหมดโดยมีน้ำสีเขียวๆใสๆหลงเหลืออยู่
-น้ำยางสีขาวปะปนกับสีเขียวเล็กน้อย
-ไม่มีกลิ่นฉุนจากใบเงาะ
|
ตารางที่ 2 ***การเปลี่ยนแปลงของน้ำยางเมื่อนำมาทดลองกับน้ำส้มตะโนด***
ว/ด/ป ที่ทำการทดลอง
|
เวลาที่ใช้ในการสังเกตการเปลี่ยนแปลง
|
การเปลี่ยนแปลงของน้ำยาง
|
-
|
เมื่อเติมน้ำส้มตะโนดลงไปในน้ำยางที่เตรียมไว้และคนให้ทั่ว น้ำยางจะมีลักษณะข้นกว่าเดิม มีสีน้ำตาลอ่อนๆ มีกลิ่นฉุนจากน้ำส้มตะโนดเล็กน้อย
| |
5 นาที
|
-น้ำยางข้นกว่าเดิมมาก
-น้ำยางเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ
-มีกลิ่นฉุนจากน้ำส้มตะโนดเล็กน้อย
| |
4 ธันวาคม 2554
|
10 นาที
|
-น้ำยางเริ่มแข็งตัวเป็นก้อนมากกว่าส่วนที่เป็นน้ำ
-น้ำยางเริ่มเป็นสีขาวแต่ก็ยังมีสีน้ำตาลอ่อนๆอยู่เล็กน้อย
-มีกลิ่นฉุนจากน้ำส้มตะโนดมากกว่าเดิม
|
15 นาที
|
-น้ำยางแข็งตัวเป็นก้อนทั้งหมดและมีน้ำใสๆหลงเหลืออยู่
-น้ำยางมีสีขาวและมีสีน้ำตาลอ่อนๆปะปนเล็กน้อย
-มีกลิ่นฉุนจากน้ำส้มตะโนดมาก
|
สรุปผลการทดลอง
1.อภิปลายผลการทดลอง
ในการทำให้น้ำยางแข็งตัวโดยการใช้น้ำที่คั่นจากใบเงาะและน้ำส้มตะโนดมีผลดังนี้
1.1.น้ำที่คั่นจากใบเงาะทำให้น้ำยางเป็นดังนี้
1.1.1.น้ำยางแข็งตัวช้ากว่าน้ำส้มตะโนดแต่ก็มีลักษณะใกล้เคียงกับการใช้น้ำส้มฆ่ายาง
1.1.2.น้ำยางที่แข็งตัวมีสีขาวปะปนกับสีเขียวเล็กน้อย
1.1.3.ไม่มีกลิ่นฉุนจากใบเงาะ
1.2.น้ำส้มตะโนดทำให้น้ำยางเป็นดังนี้
1.2.1.น้ำยางแข็งตัวโดยมีลักษณะใกล้เคียงกับการใช้น้ำส้มฆ่ายาง
1.2.2.น้ำยางมีสีขาวและมีสีน้ำตาลอ่อนๆปะปนเล็กน้อย
1.2.3.มีกลิ่นฉุนจากน้ำส้มตะโนดมาก
2.สรุปผลการทดลอง
จากการทดลองสรุปได้ว่าน้ำส้มตะโนดจะทำให้น้ำยางแข็งตัวได้เร็วกว่าน้ำที่คั่นจากใบเงาะประมาณ 10 นาที น้ำยางที่แข็งตัวโดยการใช้น้ำส้มตะโนดจะมีกลิ่นฉุนมากแต่ น้ำยางที่แข็งตัวโดยการใช้ น้ำที่คั่นจากใบเงาะจะไม่มีกลิ่นฉุนและประสิทธิภาพ ของน้ำยางที่แข็งตัวเหมือนกันโดยมีลักษณะใกล้เคียงกับการใช้น้ำส้มฆ่ายาง
การทดลองของโครงงานนี้พบว่าเราสามารถนำน้ำส้มตะโนดและน้ำที่คั่นจากใบเงาะ มาใช้แทนน้ำส้มฆ่ายางได้แม้ว่าการใช้น้ำที่คั่นจากใบเงาะจะทำให้น้ำยางแข็งตัวช้ากว่าการใช้น้ำส้มตะโนดแต่ประสิทธิภาพของน้ำยางที่แข็งตัวนั่นเหมือนกันซึ่งจะเป็นผลดีแก่เกษตรกรชาวสวนยางในเรื่องต้นทุนการผลิตและลดความเสี่ยงจากการใช้น้ำส้มฆ่ายาง
น้ำส้มตะโนด
น้ำที่คั่นจากใบเงาะ
3.ข้อเสนอแนะ
***แม้ว่าน้ำส้มตะโนดและน้ำที่คั่นจากใบเงาะมาใช้แทนน้ำส้มฆ่ายางได้ซึ่งจะได้ประสิทธิภาพของน้ำยางที่แข็งตัวเหมือนกัน แต่ขอแนะนำให้ใช้น้ำที่คั่นจากใบเงาะเพราะสามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นของเรา***
เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก
ตอบลบเพราะในฐานะของชาวเกษตรสวนยางพารา ก็ต้องการจะลดต้นทุนเหมือนกัน
มีอะไรจะแนะนำก็โปรดเข้าไปบอกได้นะครับที่
http://para-buy.blogspot.com